โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

25/02/2563

วิธีป้องกันไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019


โคโรน่าคือเชื้อไวรัสที่มีรูปร่างคล้ายมงกุฎ พบครั้งแรกกลางทศวรรษที่ 1960 โดยมีเชื้อไวรัสโคโรน่าอยู่ 4 สายพันธุ์ใหญ่ ๆ ด้วยกัน ไวรัสโคโรน่าเป็นตระกูลใหญ่ของไวรัส ที่สามารถทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจในมนุษย์ โดยทั่วไปแล้ว ไวรัสโคโรน่า ที่เกิดกับคนทำให้เกิดโรคเล็กน้อยเช่นโรคหวัด บางสายพันธุ์อาจทำให้เกิดโรคปอดบวม และโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงเช่น SARS พบครั้งแรกที่ประเทศจีน ปี ค.ศ. 2002-2003 ซึ่งได้ระบาดไปทั่วโลก และมีอัตราการเสียชีวิตสูง และพบเชื้อที่ก่ออาการต่อระบบทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS) ในซาอุดิอาระเบีย ซึ่งมีรายงานตั้งแต่เดือนกันยายน 2555 จนกระทั่งล่าสุดพบ “เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019” ที่เมืองอู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย์ ตอนกลางของประเทศจีน โดยบริเวณที่พบผู้ป่วยมากที่สุดและคาดว่าน่าจะเป็นต้นตอของโรค คือ ตลาดอาหารทะเลและสัตว์หายากในเมือง ซึ่งได้แพร่กระจายไปในหลายเมืองในประเทศจีน และหลายประเทศ เช่น ไทย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เป็นต้น

โดยเฉพาะในประเทศไทยเอง ผู้ป่วยรายแรกที่พบนั้นเป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนอายุ 61 ปี จากเมืองอู่ฮั่น ซึ่งมีอาการไข้หนาวสั่น ปวดศีรษะและเจ็บคอ สามวันก่อนเดินทางมาที่ประเทศไทย ต่อมาได้เดินทางมาพร้อมครอบครัวเพื่อท่องเที่ยว เมื่อเดินผ่านเครื่องตรวจจับความร้อนที่สนามบิน (Thermoscan) จึงพบว่ามีไข้ และถูกส่งตัวไปนอนรักษาที่โรงพยาบาลทันที อีกสองวันต่อมา ทางโรงพยาบาลสามารถแยกเชื้อโดยวิธีการทางโมเลกุลได้ว่าเป็นเชื้อ “ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019” จึงรายงานไปที่องค์การอนามัยโลก และมีการประกาศว่าไทยเป็นประเทศแรกนอกเหนือจากประเทศจีน ที่มีผู้ป่วยไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่วิธีสังเกตอาการ

หากได้รับเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ผู้ป่วยจะเริ่มแสดงอาการออกมาภายใน 1 วัน ถึง 2 สัปดาห์ หลังจากได้รับเชื้อ โดยอาการเริ่มแรกของผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 นั้น ส่วนใหญ่จะเริ่มจากการมีไข้ ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หายใจหอบเหนื่อย ถ่ายเหลวท้องเสีย หากผู้ป่วยมีร่างกายไม่แข็งแรงหรือมีภูมิคุ้มกันต่ำ จะทำให้มีความรุนแรงถึงขั้นวิกฤตและเสียชีวิตได้

วิธีป้องกันเบื้องต้น    ทุกคนสามารถป้องกันตัวเองและคนรอบข้าง ให้ห่างไกลจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้ดังนี้

  • เลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการระบาด หรือในสถานที่แออัด
  • ระวังการสัมผัสพื้นผิวที่ไม่สะอาด และอาจมีเชื้อโรคเกาะอยู่
  • ควรล้างมือให้สม่ำเสมอด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล อย่างน้อย 20 วินาที
  • ไม่นำมือมาสัมผัส ตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น ขณะที่ไม่ได้ล้างมือ
  • เลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล เหนื่อยหอบ เจ็บคอ
  • หลีกเลี่ยงการใกล้ชิด สัมผัสสัตว์ต่าง ๆ โดยที่ไม่มีการป้องกัน
  • ทานอาหารสุก สะอาด ใช้ช้อนกลาง ไม่ทานอาหารที่ทำจากสัตว์หายาก
  • สวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี (สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ หรือผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยตรง ควรใส่หน้ากากอนามัย หรือใส่แว่นตานิรภัย เพื่อป้องกันเชื้อในละอองฝอยจากเสมหะหรือสารคัดหลั่งเข้าตา)

"สุดท้ายขอฝากไว้ว่า อย่าตื่นตระหนกจนเกินไป ตรวจสอบข้อมูลและติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่องจากแหล่งที่เชื่อถือได้"