PTTGC จับมือนักลงทุนต่างประเทศ เดินหน้า 3 โครงการปิโตรเคมี

23/03/2561

PTTGC จับมือนักลงทุนต่างประเทศ เดินหน้า 3 โครงการปิโตรเคมี ร่วม 70,000 ล้าน ในพื้นที่ EEC ตอบโจทย์ อุตสาหกรรมเป้าหมาย ก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0

PTTGC ผู้นำธุรกิจเคมีภัณฑ์และการกลั่นร่วมกับนักลงทุนต่างประเทศ วางศิลาฤกษ์ 3 โครงการปิโตรเคมีสมรรถนะสูง ในพื้นที่ EEC จังหวัดระยอง ส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย กระจายความเจริญทางเศรษฐกิจสู่ชุมชนเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ ในภูมิภาคอาเซียน เป็นประตูสู่เศรษฐกิจโลก

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) จัดพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการส่วนขยายปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ ซึ่งเป็นโครงการอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นต้นและขั้นปลาย ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จังหวัดระยอง ประกอบด้วย โครงการปรับปรุงกระบวนการผลิตโอเลฟินส์ (ORP: Olefins Reconfiguration Project) โครงการผลิตสารโพรพิลีน ออกไซด์ (Propylene Oxide Project) และ โครงการผลิตสารโพลีออลส์ (Polyols Project) โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี ณ พื้นที่ก่อสร้างโครงการปรับปรุงกระบวนการผลิตโอเลฟินส์ PTTGC สาขา 2 (โรงโอเลฟินส์ ไอ – หนึ่ง) จังหวัดระยอง

โครงการส่วนขยายปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ 3 โครงการ มีรายละเอียด ดังนี้

โครงการ Olefins Reconfiguration Project (ORP) : บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาออกแบบวิศวกรรม การจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์ การก่อสร้าง กับ บริษัท ซัมซุงเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (SECL) บริษัท ซัมซุง เอนจิเนียริ่ง ไทยแลนด์ จำกัด (SET) และ บริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) (TTCL) เพื่อก่อสร้างโรงงาน ปิโตรเคมี โครงการโรงโอเลฟินส์แห่งใหม่ (Olefins Reconfiguration Project) โดยใช้แนฟทา และ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เป็นวัตถุดิบหลัก คาดว่าจะสามารถดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2563 โดยมีมูลค่าเงินลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 36,000 ล้านบาท

โครงการผลิตสารโพรพิลีน ออกไซด์ (Propylene Oxide Project) และ โครงการผลิตสารโพลีออลส์ (Polyols Project) : เป็นโครงการในธุรกิจสาย Polyurethane ซึ่งอยู่ในกลุ่มเคมีภัณฑ์สมรรถนะสูง (Performance Materials & Chemicals) ที่เป็นการต่อสายธุรกิจผลิตภัณฑ์ Polyurethane อย่างครบวงจร เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตลาดกำลังมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น ตามการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ไฟฟ้า ปัจจุบันได้มีการจัดตั้ง บริษัทย่อย คือ GC Oxirane Co., Ltd. (GCO) และบริษัทร่วมทุน GC Polyols Co., Ltd (GCP) ระหว่าง PTTGC และพันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่น คือ บริษัท Sanyo Chemicals Industries (SCI) และ บริษัท Toyota Tsusho Corporation (TTC) เพื่อดำเนินธุรกิจ PO และ Polyols โดยมีมูลค่าโครงการ PO/Polyols รวมกันประมาณ 32,000 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ปี 2563

โครงการลงทุนส่วนขยายปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษของ PTTGC ในพื้นที่ EEC ในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ด้านปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ถึง 25 เท่า เกิดการจ้างงานให้กับประชาชน เกิดกองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อเป็นทุนสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ ชุมชน และประชาชนที่อยู่ภายในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ พัฒนาคน เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน สร้างความ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”